บอกลาอาการ ปวดตึง คอ บ่า ไหล่ ปวดสบัคลึกๆ ชาร้าวลงแขน



        ไม่ใช่แค่คนทำงานออฟฟิศเท่านั้น!! ที่เสี่ยงเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม และหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แต่คนที่ใช้งานร่างกายหนักด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้องบ่อย ๆ หรือใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ ต่อเนื่อง เช่น พนักงานขับรถ พนักงานยกของ พนักงานช่างที่ต้องใช้งานกล้ามเนื้อ หรือนั่งอยู่ในท่าเดิมติดต่อกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมง และมีการ ก้ม เงย บิด หลัง หรือคอ เป็นเวลานาน แนะนำให้ทุกคนหมั่นสำรวจความผิดปกติของร่างกาย หากเริ่มรู้สึกปวดเมื่อยตามบริเวณต่าง ๆ อย่าปล่อยทิ้งไว้ ลองสังเกตพฤติกรรมของตัวเองว่ากิจกรรมใดที่เป็นสาเหตุของอาการปวดเมื่อย ควรรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จึงจะสามารถหายขาดจากอาการปวด และป้องกันตัวเองจากโรคเหล่านี้ได้

อย่าปล่อยอาการเหล่านี้ไว้...

1. ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ อาจจะเริ่มปวดโดยไม่ได้ทำอะไรหนักเป็นพิเศษ และอาจจะเริ่มปวดเรื้อรังนานขึ้นเรื่อยๆ มากกว่า 1-2 สัปดาห์เป็นต้นไป เนื่องจากนั่งทำงานนานๆ โดยไม่ได้ขยับร่างกาย หรือนั่งในท่าเดิมๆ หรือเก้าอี้และโต๊ะอาจไม่อยู่ในลักษณะที่สมดุลกับร่างกาย

2. ปวดศีรษะ หรือปวดหัวไมเกรนบ่อยครั้งขึ้น เนื่องจากความเครียดสะสม ใช้สายตาหนัก นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ และไม่เป็นเวลา

3. มือชา เอ็นอักเสบ นิ้วล็อค จากการพิมพ์งานบนคอมพิวเตอร์ หรือใช้งานเม้าส์กับคอมพิวเตอร์นานเกินไป อาจทำให้กล้ามเนื้อกดทับประสาท  เส้นเอ็นอักเสบ หรือเกิดพังผืดบริเวณนิ้ว และมือได้


สาเหตุของอาการปวดบ่า ปวดไหล่

1 การเกร็งของกล้ามเนื้อ มักเกิดกับคนที่ต้องทำงานนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ  หรือกับคนที่ต้องขับรถระยะทางไกลบ่อยๆ ต้องยกแขนจับพวงมาลัยเป็นเวลานาน กล้ามเนื้อช่วงบ่าจะเกิดการเกร็ง ถ้าเกร็งนานๆบ่อยๆ กล้ามเนื้อจะไม่คลาย และทำให้เกิดการปวด ตึง เมื่อย ถ้ากล้ามเนื้อเกร็งมากๆ จนตึงขึ้นไปถึงขมับอาจทำให้ปวดหัว และสามารถตึงลามไปถึงสะบักได้

2 สภาพแวดล้อมหรืออุปกรณ์ในการทำงานไม่เหมาะสม เช่น โต๊ะหรือเก้าอี้ไม่เหมาะสมกับการนั่งทำงานเป็นระยะเวลานาน

3 การใช้งานกล้ามเนื้อที่ผิดวิธี เช่น การเล่นกีฬาหนักๆ เช่นกีฬาฟุตบอล กีฬารักบี้ เป็นต้น

4 มีสภาพร่างกายที่อาจส่งผลต่ออาการเจ็บป่วย เช่น เครียดจากงาน การอดอาหาร พักผ่อนไม่เพียงพอ


อันตรายหากปล่อยอาการเรื้อรังต่อไป..

1. เสี่ยงต่ออาการหมอนรองกระดูกเสื่อม หรือหมอนรองกระดูกทับประสาท ซึ่งอาจเป็นขั้นหนักถึงกับต้องทำกายภาพบำบัด

2. เสี่ยงต่ออาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ และโรคภูมิแพ้ เนื่องจากบรรยากาศภายในออฟฟิศมักมีอากาศที่ไม่ถ่ายเท รวมทั้งฝุ่งผงบนพื้นพรม เครื่องถ่ายเอกสารต่างๆ

3. โรคอ้วน เนื่องจากนำมาอาหารมาทานบนโต๊ะ หรือทานในออฟฟิศ ไม่ได้เดินไปไหนมาไหนมาก การเผาผลาญพลังงานในแต่ละวันลดลง หากไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย ยิ่งเสี่ยงต่อโรคอ้วนได้มากขึ้นยิ่งขึ้น

4. เสี่ยงเป็นโรคติดต่อ เพราะเมื่อใดก็ตามที่คนรอบข้างไม่สบาย เป็นหวัด หรือเป็นโรคติดต่อชนิดอื่นๆ หากเรามีภูมิคุ้มกันร่างกายที่ไม่แข็งแรงพอ ก็มีสิทธิ์ติดโรคติดต่อเหล่านั้นได้โดยง่าย


      อย่าปล่อยให้อาการเรื้อรัง.. จนเข่าสู่ระยะที่เป็นหนักมากนะคะ เพราะนอกจากจะต้องเสียเวลาจนไม่ได้ทำงานอย่างที่ใจคิดแล้ว ยังเสียเงินพบแพทย์ และเสียเวลาทำกายภาพบำบัด หรือทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง ขอบอกเลยว่าออฟฟิศซินโดรมไม่ได้เกิดขึ้นภายในวันสองวัน เราใช้เวลาร่วมเดือนร่วมปีถึงจะมีอาการออกมา เพราะฉะนั้นตอนรักษาให้หาย ก็ไม่ได้ใช่เวลารอดเร็วอย่างที่ใจอยากให้เป็นแน่นอน ดูแลสุขภาพกันให้ดีๆ จะได้แข็งแรง ทำงาน ไปเที่ยว และใช้ชีวิตอยู่กับคนที่เรารักไปได้นานๆ นะคะ


















ดิออฟฟิศ

ส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 เม็ด รวม 14 รายการ

1.สารสกัดจากดอกดาวเรือง (Marigold Extract) 100 มก.
2.สารสกัดจากบลูเบอร์รี่ (Blueberry Extract) 50 มก.
3.สารสกัดจากชาเขียว (Green Tea Extract) 50 มก.
4.สารสกัดจากรากขิง (Ginger Root Extract) 40 มก.
5.แอล-กลูตามีน (L-Glutamine) 40 มก.
6.แอล-ไลซีน โมโนไฮโดรคลอไรด์ (L-lysine Monohydrochloride) 40 มก.
7.แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine) 35 มก.
8.โคเอ็นไซม์ คิวเท็น (Coenzyme Q10 Powder 10%) 20 มก.
9.ทอรีน (Taurine) 20 มก.
10.เบต้า กลูแคน จากข้าวโอ๊ต (Oat Beta-glucan 70%) 20 มก.
11.สารสกัดจากโสม (Ginseng Extract) 20 มก.
12.สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ (Bilberry Extract) 15 มก.
13.สารสกัดจากพริก (Capsicum Extract) 15 มก.
14.สารสกัดจากขมิ้นชัน (Turmeric Extract) 15 มก

เหมาะสำหรับ


- ผู้ป่วยที่มีอาการปวดตึง ปวดบวมแดง อักเสบในชั้นมัดกล้ามเนื้อลึกๆ อักเสบในสะโพก ชาร้าวลงขา 

- ผู้ป่วยที่เส้นเอ็นตึง เส้นเอ็นอักเสบ กล้ามเนื้อตึง กล้ามเนื้ออักเสบชาร้าวลงขา ชาร้าวลงฝ่าเท้า





อเลอไทด์

ส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 เม็ด


1.น้ำมันปลา (Fish Oil Powder)   250 มก.
2.สารสกัดจากพรมมิ (Bacopa Monnieri (Brahmi) Extract)   225 มก.
3.โคลีน ไบทาเทรด (Choline Bitartrate)   225 มก.
4.เบต้า กลูแคน 85% (Beta Glucan 85%)   58.824 มก.
5.แอล-ไทโรซีน (L-Tyrosine)   50 มก.
6.โปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง (Soy Protein Isolate)   50 มก.
7.ทอรีน (Taurine)   50 มก.
8.แอล-ซีสเตอีน ไฮโดรคลอไรด์ (L-Cysteine HCL)   50 มก.
9.แอล-ธีอะนีน (L-Theanine)   25 มก.
10.วิตามิน บี6 (Vitamin B6)   2 มก.
11.วิตามิน บี1 (Vitamin B1)   1.5 มก.
12.วิตามิน บี12 (Vitamin B12)  0.002 มก.

เหมาะสำหรับ
  • ผู้ป่วย ผู้มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาทและสมอง
  • ผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุมีผลต่อระบบประสาทและสมอง
  • ผู้ป่วยที่มีอาการ แขนชา ขาชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง



โกเรจิ้น
 ส่วนประกอบสำคัญ

1. สารสกัดจากโสม (Ginseng Extract)
2. นมผึ้ง (Royal Jelly)
3. สารสกัดถั่งเช่า (Cordyceps)
4. สารสกัดยีสต์ เบต้ากลูแคน 
5. สารสกัดเห็ดหลินจือ 
6. สารสกัดเม็ดองุ่น 
7.สารสกัดจากเปลือกสน (Pine Bark Extract)  
8. แอล-ซิสเตอีน (L-Cysteine)
9. แคลเซียม แอสคอร์เบต

  เลขที่ อย.10-1-06045-1-0038

เหมาะสำหรับ

-ผู้ป่วยที่มีอาการปวด ตึง อักเสบ ในชั้นกล้ามเนื้อมัดลึกๆในแก้มก้น ในสะโพก ชาร้าวลงขา
-ผู้ป่วยที่มีเนื้อเยื่อใยพังผืดหนาเหนียวแน่น แข็งเป็นปุ่ม เป็นก้อน เกาะรัดเส้นประสาท

บริหารงานโดย



***นวัตกรรมการฟื้นฟูและต้านโรคด้วยสารสกัดธรรมชาติระดับชีวโมเลกุล การเสริมโภชนาการหรือใช้วิธีการกระตุ้นเพื่อเร่งกระบวนการซ่อมแซม การดูแลจัดการที่ปัจจัยพื้นฐานร่วมไปกับการบำบัดอาการเฉพาะหน้านี้ ย่อมจะทำให้ผลการฟื้นฟูมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยั่งยืนกว่า

เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ...และสะดวกในการวินิจฉัยโรค...
กรุณาติดต่อเข้ามาใน..สถาบันค่ะ
#แชร์เป็นวิทยาทาน
เ รี ย น รู้ วิ ธี บำ บั ด ตั ว เ อ ง ฟ รี ! ! ...ผ่านไลน์แอด

อย่าลืมแชร์และชวนเพื่อนเรียนรู้พร้อมกัน

ปรึกษาฟรี คุณเอียงโล (คุณนอร์) 081-300-3844

ติดตามข้อมูล คลิ๊กที่นี่ https://line.me/R/ti/p/%40xib2931g
















ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอะไรกัด? 12 รอยแมลงกัด ตุ่มแดงๆ ขึ้นบนร่างกายแบบนี้ มาจากสัตว์อะไร

มะเร็งไฝ เม็ดผิวหนังที่ขึ้นอยู่ตามร่างกาย จุดดำ ๆ ที่เป็นไฝหรือขี้แมลงวัน อาจกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้โดยที่เราไม่ทันรู้ตัว

อดนอน ภูมิตกติดหวัดง่ายขึ้น