เทคนิค ดื่มน้ำป้องกันโรค




ดื่มน้ำป้องกันโรค ไม่ใช่แค่คำพูดลอยๆ แต่เป็นสิ่งที่สามารถทำได้จริงหากเรารู้จักร่างกาย และกระบวนการทำงานของน้ำต่อร่างกาย

ร่างกายกว่าครึ่งประกอบด้วยน้ำ

เมื่อเกิดการสูญเสียน้ำเพียง 1.5 เปอร์เซ็นต์จากปริมาณน้ำทั้งหมด ร่างกายจะส่งสัญญาณเตือนให้รู้สึกกระหายน้ำทันที เพราะน้ำเป็น ส่วนประกอบหลักของร่างกาย ผู้ใหญ่มีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนทารกมีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ โดยน้ำแทรกซึมอยู่ในเนื้อเยื่อของทุกอวัยวะ แม้ในกระดูกก็มีน้ำเป็น ส่วนประกอบถึง 22 เปอร์เซ็นต์ หนังสือชีวเคมี1 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล อธิบายความ สำคัญของน้ำกับร่างกายไว้ดังนี้
1. คงความชุ่มชื่น เปล่งปลั่ง สังเกตได้จากผู้ที่มีภาวะขาดน้ำ เช่น ผู้ป่วยที่หมดสติ นอนไม่รู้สึกตัว ผู้ที่เสียเหงื่อมากและไม่ได้ดื่มน้ำ ชดเชย ผู้ที่มีอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง ผู้ป่วยเหล่านี้จะแก้มตอบ ตาโหล ผิวหนังเหี่ยวย่น
2. เป็นตัวทำละลายสารอาหารต่างๆ เช่น เกลือแร่ น้ำตาล โปรตีน และวิตามินบางชนิด
3. เป็นส่วนประกอบของน้ำย่อย ช่วยดูดซึมสารอาหาร ลำเลียง สารอาหารในกระแสเลือดไปยังเซลล์ต่างๆภายในร่างกาย และช่วยในการ ขับถ่าย
4. ช่วยในการทำปฏิกิริยาเคมีต่างๆในร่างกาย
5. รักษาสมดุลความร้อนภายในร่างกาย โดยเหงื่อ 1 มิลลิลิตรจะช่วย ระบายความร้อนได้0.6 กิโลแคลอรี คนทำงานหนัก ออกแรงมาก อาจ เสียเหงื่อได้ถึงวันละ 8 ลิตร
6. ป้องกันการเสียดสีของอวัยวะต่างๆภายในร่างกาย

ดื่มน้ำป้องกันโรค

ดื่มน้ำป้องกันสมองเสื่อม ต้านไมเกรน

งานวิจัยจาก มหาวิทยาลัยทัฟตส์ (Tufts University) ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ภาวะขาดน้ำสัมพันธ์ กับความรู้สึกโกรธ หดหู่ และสับสน สอดคล้อง กับ The Journal of Nutrition ซึ่งศึกษาพบว่า การขาดน้ำ มีผลต่อการทำงานของสมอง
การทดลองทำโดยให้อาสาสมัครชายหญิงอายุ ระหว่าง 20 – 23 ปีออกกำลังกายจนเสียเหงื่อมาก แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ดื่มน้ำชดเชย นักวิจัยทำให้อาสาสมัครอยู่ในภาวะขาดน้ำระดับอ่อน (Mild Dehydration) หรือสูญเสียน้ำประมาณ 1.5 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณน้ำในร่างกาย จากนั้นจึงให้ทำ แบบทดสอบประเมินประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
ผลจากการทดสอบระบุว่า อาสาสมัครมีสมาธิและ ความสามารถในการตัดสินใจลดลง มีอาการอ่อนเพลีย และปวดศีรษะร่วมด้วย ไม่เฉพาะหลังออกกำลังกาย ภาวะขาดน้ำระดับอ่อนยังเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันหากดื่มน้ำน้อยเกินไป สามารถตรวจสอบได้ด้วยการดูสีปัสสาวะ โดยปกติ ปัสสาวะควรมีสีเหลืองอ่อน หากปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม หรือสีเหลืองน้ำตาลแสดงว่า ร่างกายกำลังอยู่ในภาวะ ขาดน้ำ
การดื่มน้ำเปล่าอย่างเพียงพอนอกจากช่วยเสริม การทำงานของสมอง ยังช่วยลดอาการไมเกรนได้ อีกด้วย ดังการศึกษาจาก The Journal of Neurology ทำการทดลองโดยแบ่งผู้ป่วยโรคไมเกรนออกเป็น 2 กลุ่ม โดยให้ทั้ง 2 กลุ่มกินอาหารประจำวันตามปกติ ต่างกันเพียง กลุ่มแรกให้ดื่มน้ำเปล่าวันละ 6 แก้ว (1.5 ลิตร) ส่วนอีกกลุ่มให้ดื่มน้อยกว่า หลังทำการทดลอง 2 สัปดาห์ปรากฏว่า กลุ่มที่ดื่มน้ำเปล่าวันละ 6 แก้วมีอาการปวดศีรษะลดลงอย่าง เห็นได้ชัด โดยความถี่ของอาการปวดศีรษะลดลง 21 ชั่วโมงใน 2 สัปดาห์

ดื่มน้ำป้องกันโรค

ดื่มน้ำถนอมหัวใจ ป้องกันมะเร็ง

ผลสำรวจจาก  American Journal of Epidemiology ติดตาม ผลของการดื่มน้ำเปล่าต่อสุขภาพนาน 6 ปี ทำให้ทราบว่า ผู้ที่ดื่มน้ำเปล่า มากกว่าวันละ 5 แก้ว มีอัตราการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจวายต่ำกว่าผู้ที่ดื่ม น้ำเปล่าเฉลี่ยวันละ 2 แก้วถึง 41 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ผู้ที่ดื่มน้ำเพียงพอ ไม่รอให้ร่างกายอยู่ใน ภาวะขาดน้ำ มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งลำไส้ลดลง 45 เปอร์เซ็นต์เสี่ยง เป็นโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะและโรคมะเร็งเต้านมลดลง 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะน้ำช่วยเจือจางสารพิษในลำไส้ ช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น ลดการสะสมของสารพิษหรือสารก่อมะเร็งซึ่งอาจทำปฏิกิริยากับผนังลำไส้จน ลุกลามเป็นมะเร็งร้าย

นอกจากน้ำเปล่า ควรกินผลไม้ฉ่ำน้ำ รสไม่หวานจัด และน้ำซุป หรือน้ำแกงตามสูตรชีวจิตร่วมด้วย เพื่อเสริมสารอาหาร ทำให้ดูอ่อนกว่าวัย และป้องกันโรคอย่างแท้จริง

(สนับสนุนข้อมูล : คอลัมน์ ชีวจิต+ นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 367)



------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แนวทางปฏิบัติ

1 แชร์ = 1 ธรรมทาน แชร์เยอะๆได้บุญจ้า

โปรดทราบ!

ถ้าชอบ ฝากกดติดตามเพจ กันด้วย ถ้าข้อมูลนี้เป็นประโยชน์ และสามารถช่วยใครได้อีกหลายๆคน
อย่าเก็บไว้อ่านคนเดียว และอย่าลืมส่งให้กับคนที่คุณรักได้อ่านกันจ้า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอะไรกัด? 12 รอยแมลงกัด ตุ่มแดงๆ ขึ้นบนร่างกายแบบนี้ มาจากสัตว์อะไร

มะเร็งไฝ เม็ดผิวหนังที่ขึ้นอยู่ตามร่างกาย จุดดำ ๆ ที่เป็นไฝหรือขี้แมลงวัน อาจกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้โดยที่เราไม่ทันรู้ตัว

อดนอน ภูมิตกติดหวัดง่ายขึ้น