สติเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่
มนุษย์เราเมื่อเกิดมาล้วนต้องการความสุข แต่วิธีการสร้างสุขอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนและประสบการณ์ อาจมีรูปแบบที่หลากหลาย เช่นดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ฝึกจัดการกับอารมณ์ อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี มีสัมพันธภาพที่ดีกับครอบครัวหรือบุคคลอื่น แต่ขณะเดียวกันก็พบว่ากลับทำสิ่งที่กล่าวมานั้นได้ยาก เพราะมักทำอะไรอย่าง “ไม่มีสติ” หรือ “เผลอ” เช่นเผลอกินตามใจปากจนน้ำหนักเกิน ออกกำลังกายได้ไม่กี่ครั้งก็เบื่อหน่าย เวลาถูกต่อว่าก็พูดสวนกลับไปทันที ของหายเป็นประจำเพราะวางไม่ถูกที่ เดินไม่ระวังทำให้สะดุดหกล้ม ลืมกินยาหรือลืมของเป็นประจำ หากคุณเป็นคนอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะมาลองนำสติมาใช้ในชีวิตประจำวันดู
สติหมายถึงอะไร...?
คำว่า สติ (mindfulness, sati) หมายถึง การรู้ตัว หรือความไม่เผลอ เป็นภาวะจิตที่ทำงานไม่ถูกสอดแทรกด้วยอารมณ์ ปัจจุบันมีการนำแนวทางการพัฒนาสติมาใช้ทั้งการบำบัดป้องกันโรคทางจิตใจ การพัฒนาคุณภาพการทำงานขององค์กร และการส่งเสริมสุขภาพมากขึ้น พบว่าผู้ที่ฝึกสติเป็นประจำ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของคลื่นสมอง ทำให้มีความสงบมากขึ้น ลดความเครียดได้ และเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สมองส่วนหน้า ทำให้เกิดการเรียนรู้ ความจำ การวางแผน การตัดสินใจและกำหนดทางเลือกที่ดีขึ้น มีการใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา รับรู้เข้าใจความคิดของตนเอง โดยมีความยั้งคิดมากขึ้น จัดการกับอารมณ์ของตนเองได้และปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ดีขึ้น
จะฝึกสติได้อย่างไร?..
ทำง่ายๆด้วยการ “รู้ลมหายใจ รู้กิจที่ทำ” เริ่มต้นด้วยการ รู้ลมหายใจ.. มีสติรู้ลมหายใจเข้าออกที่เป็นปัจจุบันสัก 20% อีก 80% ให้จดจ่อกับสิ่งที่ตนเองทำ โดยไม่มีอารมณ์มาสอดแทรก เมื่อรู้ลมหายใจรู้ในกิจที่ทำแล้ว สามารถนำไปใช้กับกิจวัตรประจำวันได้ เช่น
- เวลาทำงาน ให้รับรู้ลมหายใจ มุ่งอยู่กับสิ่งที่ทำ ตัดความสนใจรอบข้างออกจะทำงานได้ดีขึ้น
- เวลาทำงานบ้าน ให้รับรู้ลมหายใจ ตั้งใจอยู่กับกิจวัตร งานบ้านที่ทำ ไม่วอกแวกกับสิ่งอื่น
- ก่อนจะกินเพลิน ให้รับรู้ลมหายใจ แล้วหยุดคิดสักนิดว่าหิวหรือไม่ ควรกินในปริมาณเมื่อใดและควรหยุดเมื่อใด
- เวลาเดิน ไปในท้องถนน ให้รู้ลมหายใจ ใจจดจ่ออยู่กับเท้าที่เดินและทางข้างหน้า
- ก่อนใช้ Social media ให้รู้ลมหายใจ แล้วไตร่ตรองสักนิดก่อนจะแสดงความคิดเห็น หรือแชร์ข้อมูล
- ก่อนจะใช้จ่าย ให้รับรู้ลมหายใจ และยั้งคิดก่อนว่าสิ่งนั้นจำเป็นต่อชีวิตหรือไม่
- ก่อนจะทิ้งขยะลงในที่สาธารณะ ให้รับรู้ลมหายใจแล้ว คิดถึงผลที่ตามมา
- ก่อนจะโต้เถียงกับผู้อื่น ให้รับรู้ลมหายใจ หยุดสักนิด ถอยออกมาจากตรงที่มีปัญหา
หากทำได้ควรฝึกสติอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องทุกวัน การนำ“สติ” มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน การทำงาน ชีวิตครอบครัวและการสร้างสัมพันธภาพในสังคม จะช่วยลดปัญหาสุขภาพที่เป็นอยู่เดิม เพิ่มศักยภาพในการคิดและการแก้ปัญหาต่าง ๆ เกิดมุมมองใหม่ทางบวกในการดำเนินชีวิต ส่งเสริมสุขภาพกายและจิต สามารถดำเนินชีวิตและทำงานได้อย่างมีความสุข นั่นคือ.สติจะเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่..
เรียบเรียงโดย นางสาวกวิตา พวงมาลัย กองสุขภาพจิตสังคม
ข้อมูลจาก...กลุ่มที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
facebook สติสร้างสุข
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แนวทางปฏิบัติ
1 แชร์ = 1 ธรรมทาน แชร์เยอะๆได้บุญจ้า









ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น